ที่ สำคัญคือจะต้องมีการป้องกันลมโกรก รวมทั้งมีที่ให้นกหลบละอองน้ำฝนด้วยข้อแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยให้การเพาะ เลี้ยงนกฟินซ์เจ็ดสีประสพความสำเร็จได้มากขึ้น
1.หากเป็นไปได้
ให้เลือกซื้อหานกที่เพาะจากฟาร์ม หรือ แหล่งเพาะขยายพันธุ์
ที่ใช้กรงเพาะเลี้ยงขนาดใหญ่ เพื่อที่จะได้นกที่มีความแข็งแรงมากกว่า
และควรเป็นนกที่พ่อแม่นกเจ็ดสีเป็นผู้เพาะฟักและเลี้ยงดูลูกนกเอง
แทนที่จะใช้นกกะทิญี่ปุ่นช่วยเพาะเลี้ยง
เพื่อว่าลูกนกที่ได้จะมีสัญชาติญาณที่ดีกว่าในการเลี้ยงดูลูกนกในรุ่นต่อๆไป
2.ถึงแม้ถิ่นฐานดั้งเดิมของนกชนิดนี้จะอยู่ในเขตที่ค่อนข้างจะร้อน
ชื้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลี้ยงดูนกชนิดนี้ในสถานที่ที่ต้องควบคุมความ
ชื้นและอุณหภูมิเสมอไป เพราะอุณหภูมิในธรรมชาติก็มีขึ้นมีลงเหมือนกัน ในต่างประเทศ
ผู้เพาะเลี้ยงหลายรายเล่าว่าได้เลี้ยงนกในกรงขนาดใหญ่นอกตัวบ้าน
นกสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำถึง ลบ 9 และ สูงสุดถึง 41
องศาเซลเซียส ที่สำคัญคือจะต้องมีการป้องกันลมโกรก
รวมทั้งมีที่ให้นกหลบละอองน้ำฝนด้วย
3.ขนาด ของกรง
ข้อนี้สำคัญมาก ถึงแม้จะสามารถเลี้ยงและขยายพันธุ์ในกรงขนาดเล็กที่เรียกกันว่า “กรงหมอน”ได้
แต่ถ้าหากหวังผลในการเพาะเลี้ยงอย่างจริงจังและยั่งยืนควรเลี้ยงในกรงที่มี
ขนาดใหญ่จะดีกว่ามาก ขนาดกว้าง 0.60 ยาว 1.80 สูง 1.80 เมตร สำหรับนกหนึ่งคู่ หรือ ขนาดกว้าง 1.20
ยาว 3.60 สูง 1.80 เมตร
สำหรับนก 3 – 4 คู่
4.ควร จัดการให้นกใหม่
ได้มีการปรับตัวให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในกรงใหม่อย่างระมัดระวัง
ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือในฤดูร้อน
หากมีความจำเป็นต้องปล่อยนกเข้ากรงในฤดูฝน หรือ ฤดูหนาว
ควรเพิ่มวัสดุป้องกันลมและฝนให้มากกว่าปกติในช่วงแรกๆ
5.นกชนิด
อื่นๆสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่ไปยังส่วนต่างๆของโลก
แต่สำหรับนกฟิ้นซ์เจ็ดสีแล้วจะยากกว่ามาก ถึงแม้จะเกิดในกรงมาเป็นสิบรุ่นแล้วก็ตาม
เมื่อถึงฤดูหนาวในประเทศที่อยู่ทางซีกโลกเหนือ
ก็เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิในประเทศทางซีกโลกใต้
เป็นช่วงเวลาที่นกจะเริ่มผสมพันธุ์กัน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม
เรื่อยไปจนถึงเดือน เมษายน สำหรับบ้านเราฤดูหนาวอากาศไม่หนาวเย็นมากนัก
ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ จะมีก็แถวช่วงเดือนมีนา – เมษา
ซึ่งอากาศค่อนข้างจะร้อน
6.เมื่อนกตัวเมียเข้าสู่สภาพที่พร้อมที่
จะผสมพันธุ์และวางไข่ จะสังเกตุได้จากสีของจงอยปากที่มีการเปลี่ยนแปลงไป
จากสีขาวนวลๆไปเป็นสีออกน้ำตาลเทาๆ
7.หากมีนกมากกว่าหนึ่งคู่
การปล่อยให้นกจับคู่หรือเลือกคู่กันเองจะมีผลดีต่อการเพาะเลี้ยงมากกว่าทำ
ได้โดยใส่ห่วงขาหรือทำเครื่องหมายไว้ที่ตัวนก แล้วปล่อยนกตัวเมียหนึ่งตัวและตัวผู้
3 – 4 ตัวเข้าไปในกรง
นกตัวเมียจะยอมให้นกตัวผู้ที่เลือกแล้วเพียงตัวเดียวให้เข้าใกล้เพื่อกระโดด
ขึ้นๆลงๆและร้องเพลงเพื่อเกี้ยวพาราสีกัน และจะจิกหรือบินหนีจากตัวผู้อื่นๆ
การจับคู่หรือเลือกคู่นี้อาจใช้ระยะเวลาตั้งแต่หนึ่งวันไปจนถึงประมาณสิบวัน
จากนั้นให้แยกนกตัวผู้ตัวอื่นๆออกไปเพื่อให้นกตัวเมียตัวอื่นได้เลือกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น